คุณสมบัติและหลักเกณฑ์การพิจารณา ประกอบด้วย ต้องเป็นผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ปฏิบัติงานมาแล้วไม่น้อยกว่า 10 ปี ไม่เคยได้รับเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ “คุรุสดุดี” มาก่อน ประพฤติปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณของวิชาชีพครบ 9 ข้อ อย่างโดดเด่น ไม่เคยกระทำความเสื่อมเสียใดๆ ไม่มีกรณีอยู่ในระหว่างการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัย ถูกดำเนินการทางวินัยหรือเป็นผู้เคยถูกลงโทษทางวินัย แม้จะได้รับการล้างมลทินตามพระราชบัญญัติล้างมลทินแล้ว และผ่านการประเมินตามหลักเกณฑ์ที่คุรุสภากำหนด
การยื่นรับรางวัล สามารถทำได้ 2 วิธี ได้แก่ 1) ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาครู ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา และศึกษานิเทศก์ เสนอขอรับรางวัลด้วยตนเอง (ต้องไม่ให้บุคคลอื่น หรือองค์กร หน่วยทางการศึกษา สถานศึกษา สมาคม มูลนิธิ ชมรม เสนอผลงานซ้ำอีก และผู้บังคับบัญชาชั้นต้นลงนามรับรองการเสนอได้มากกว่าหนึ่งคน ตามจำนวนที่เสนอขอได้) และ 2) ได้รับการเสนอชื่อจากบุคคลอื่น หรือองค์กร หน่วยทางการศึกษา สถานศึกษา สมาคม มูลนิธิ ชมรม โดยเสนอผลงานให้ผู้บังคับบัญชาชั้นต้นรับรอง ทั้งนี้ ให้กรอกแบบรายงานประวัติและผลงาน แนบเอกสารตามที่กำหนด แล้วจัดทำเป็นรูปเล่มไม่เกิน 30 หน้า (ไม่รวมปก/คำนำ/สารบัญ) พร้อมบันทึกข้อมูลรายงานประวัติเป็นไฟล์ PDF ลงใน CD หรือ DVD หรือ Flash Drive
การดำเนินการคัดเลือก ให้ยึดหลักเกณฑ์การพิจารณาให้เป็นไปตามสัดส่วนที่กำหนด และใช้ แบบประเมินตามที่คุรุสภากำหนด โดยกำหนดวิธีการคัดเลือก และส่งผลการคัดเลือกไปยังสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาภายในวันที่ 15 กรกฎาคม 2563 ตามรายละเอียดดังนี้ ในระดับจังหวัดให้พิจารณาคัดเลือกผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาทุกสังกัดในจังหวัด สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด แต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือก จำนวนไม่น้อยกว่า 20 คน โดยใช้แบบประเมินและให้เป็นไปตามสัดส่วนที่กำหนด และให้บันทึกข้อมูลผู้ที่ได้รับรางวัลคุรุสดุดี ประจำปี 2563 ลงในระบบ “ยกย่องวิชาชีพ งานรางวัลคุรุสดุดี” ได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ถึง วันที่ 15 กรกฎาคม 2563 ในระบบ tepis2.ksp.or.th
สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดยโสธร กำหนดให้ส่งผลงานเพื่อเข้ารับคัดเลือก ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2563